Skip to content
Ducati Scrambler Full Throttle 2025 13

Ducati Scrambler Full Throttle 2025: Black Bronze, 72 HP และรับประกันความสนุกสนาน

ถ้าคุณต้องการมอเตอร์ไซค์ที่ผสมผสานสไตล์ ความเรียบง่าย และความสนุกสุดเหวี่ยงแบบ “อ๊ะ นี่มันสนุกสุดๆ!” Ducati Scrambler Full Throttle 2025 ตอบโจทย์อย่างลงตัว เป็นแพ็กเกจสีดำด้านกับตัวหนังสือสีบรอนซ์ เครื่องยนต์คลาสสิก 803 ซีซี และอิเล็กทรอนิกส์ในระดับที่พอเหมาะ ราคา? เริ่มต้นที่ประมาณ 4,999,000 บาท ไปตรงๆ กันเลยไม่ต้องพูดเยอะ.

สิ่งที่เปลี่ยนแปลงใน Ducati Scrambler Full Throttle 2025 ในแก่นสาร?

ดีไซน์สีดำด้านพร้อมตัวหนังสือบรอนซ์ที่ดูโดดเด่นและสวยงาม ให้ความรู้สึกเหมือนจะพาคุณย้อนยุคไปงานแข่งรถคลาสสิกโดยไม่ดูเป็นแฟนตาซี หมายเลข 62 บนถังน้ำมันเป็นการรำลึกถึงปี ค.ศ. 1962 ซึ่งเป็นปีเปิดตัว Scrambler ชุดนี้เต็มไปด้วยความมั่นใจมากกว่าท่าทาง “อวดตัว” และชวนให้คุณอยากขี่มันเดี๋ยวนี้ ถ้าคุณชอบมอเตอร์ไซค์ที่ไม่ชอบอวดแบรนด์หรือมีความเก๋ไก๋ด้วยจำนวนแสนยากลิ้ง กลิ่นอายภายในนี้มารวมกันอย่างลงตัว.

เมื่อเทียบกับ Scrambler อื่นๆ Full Throttle เป็นรุ่นที่เน้น “สไตล์และความกล้า” จากโรงงานโดยไม่ลดความเบาและความสะดวกสบายของแฮนด์สูงและการซับแรงรองรับที่เหมาะกับพื้นผิวไม่เรียบ หากคุณอยากเปรียบเทียบฐานแบบเรียบง่ายที่สุด ลองดูที่ Scrambler Icon Next‑Gen เพื่อเข้าใจว่าที่ Full Throttle เพิ่มกลิ่นอายและความโดดเด่นอย่างไร

เครื่องยนต์ 803 ซีซี 72 แรงม้า เห็นผลและเป็นอย่างไรจริง?

เครื่อง Desmodue L‑Twin ที่ระบายความร้อนด้วยอากาศ มอบพลัง 72 แรงม้าที่ 8,250 รอบต่อนาที และแรงบิด 48 ฟุต-ปอนด์ที่ 7,000 รอบต่อนาที ในแง่ของคำอธิบายง่ายๆ: ตอบสนองแรงในรอบต่ำและปานกลาง สีสันในรอบสูงจนถึง redline ที่ 9,000 รอบต่อนาที พร้อมการเปิดวาล์วแบบ desmo ที่น่าติดใจ มันไม่ใช่ซุปเปอร์ไบค์แน่นอน แล้วไง? ความสนุกอยู่ที่วิธีที่มันเร่งความเร็วในเมืองและถนนรอง สำหรับสเปคและจุดเด่นอย่างเป็นทางการ ดูได้ที่หน้าเว็บไซต์ผู้ผลิต (อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามตลาด): Scrambler Full Throttle.

ในทางปฏิบัติ คุณแทบไม่ต้องการแรงบิดมากนัก นอกจากจะเป็นคนเดินทางในสนามแข่ง หรืออยากลองเสี่ยงกับความแรงจริงๆ Ducati ก็ยังมีรุ่น off‑road สำหรับเส้นทางลุยๆ อย่าง Desmo450 MX แต่ Full Throttle ก็พอสู้สายดินได้ดี และอยากกลับไปหาอะไรที่เติมเต็มความมัน

เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และโหมดการขับขี่ที่เพิ่มความปลอดภัย?

มาพร้อมโหมดขับขี่ 2 แบบ (Road และ Sport), ระบบควบคุมแรงเสียดทาน 4 ระดับ และ cornering ABS — ระบบ ABS อัจฉริยะที่เข้าใจการเอียงของรถและช่วยเซฟผิวหนังของคุณในเวลาที่อาจเกิดข้อผิดพลาดบนถนน เป็นเทคโนโลยีที่คุณอาจไม่เห็นด้วยตา แต่รู้สึกขอบคุณเมื่อมันช่วยชีวิตคุณเอาไว้ ถ้าสนใจรู้จักอะไรมากกว่านี้ ลองดูที่ Motorcycle Stability Control ของ Bosch: MSC Cornering ABS.

ในทางปฏิบัติ เมื่อผมปรับระดับกลางๆ มอเตอร์ไซค์ก็กลายเป็นรถที่นุ่มนวล ไม่กลายเป็น “อ่างอาบน้ำ” ถ้าคุณชอบโหมดแรงและอิเล็กทรอนิกส์ที่แรงบิดดี @อะไหล่ดีขึ้น เรียกว่าถ้าอยากดูความแตกต่างของแพ็กเกจระบบอิเล็กทรอนิกส์และโครงรถกับรุ่น Power Cruiser อย่าง Ducati XDiavel V4 2025 ก็ลองเปรียบเทียบดูความแตกต่างในแนวคิดภายในแบรนด์กันดูนะ

คุ้มไหมกับราคา $12,395? แล้วมีอะไรในแต่ละเวอร์ชัน?

รุ่น Full Throttle เริ่มต้นที่ประมาณ 4,999,000 บาท โดยมีตัวเลือกอุปกรณ์เสริมต่างๆ (เช่น ก็อปปี้ ทำเสียง Racing) ที่อาจทำให้ราคาสูงขึ้นไปถึงประมาณ 5,999,000 บาท ถ้าคุณอยากได้รุ่นราคาถูกที่สุด เริ่มต้นที่ Icon Dark ในราคา 319,000 บาท ใช่แล้ว ถูกกว่าเยอะ และสามารถอธิบายได้ว่าคู่แข่งบางรายอาจให้สเปกเครื่องและสมรรถนะที่มากขึ้นต่อเงินในมือ แต่แทบไม่ใครที่ให้ความมีเสน่ห์ดึงดูดใจแบบเต็มที่อย่างนี้ หากคุณสนใจมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าในเมืองและอยากลองสไตล์แปลกใหม่ ลองดูแบรนด์ดังใน LiveWire กับ Zero ที่เปลี่ยนแนวทางของมอเตอร์ไฟฟ้าเมือง.

ความแพงที่เพิ่มขึ้นนี้จ่ายเพื่อความสวยงามของสีดำ/บรอนซ์ ชุดอิเล็กทรอนิกส์ทันสมัย และเสน่ห์เฉพาะของ Ducati และไม่ใช่แค่ “ค่าป้าย” เท่านั้น นิสัยการขับขี่ที่เบาและสะดวกสบาย รวมถึงเครื่องยนต์ L‑Twin ที่เต็มไปด้วยลักษณะเฉพาะตัว สำหรับข้อมูลภายนอกเพิ่มเติมและความเห็นเกี่ยวกับการขับขี่ ลองดูรีวิวอิสระได้ที่ Cycle World – รีวิว Scrambler FT.

ใครคือตัวแข่งตรงและแต่ละค่ายมีอะไรเด่น?

มีตัวเลือกสนุกและราคาย่อมเยาหลายรุ่น: Honda Transalp (~3,350,000 บาท), XR650L (~2,350,000 บาท), CRF300L Rally (~2,150,000 บาท), Triumph Scrambler 400XC/400X (~1,900,000–2,200,000 บาท) และ 900 (~3,900,000 บาท), Kawasaki KLR650 (~2,250,000 บาท), Suzuki DR650S (~2,450,000 บาท) แต่ละรุ่นเน้นการใช้งานในแนวต่างกัน (เส้นทางวิบาก, การผจญภัย, การเดินทางบนถนนใหญ่) ถ้าคุณมีใจชอบสไตล์คลาสสิกเน้นสายลุยออฟโรด รุ่นคู่แข่งที่ถูกประดิษฐ์ใหม่ในแนวทางคล้ายคลึงกันจะเป็น BMW R 12 G/S.

สุดท้ายนี้ น้อยรุ่นที่ผสมผสานดีไซน์ย้อนยุคสมัยใหม่ เสียงและความรู้สึกทางกลของ desmo พร้อมอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะในแพ็กเกจเดียว ที่ทำให้คุณหัวเราะกับความสุขสุดๆ มันคือ “ความลับสุดแสบ” ของ Full Throttle

จุดเด่นของ Full Throttle 2025 อย่างรวบรัด

  • ดีไซน์ดำ/บรอนซ์เด่นชัด
  • เครื่องยนต์ 803 ซีซี L‑Twin ระบายความร้อนด้วยอากาศ
  • 72 แรงม้า ที่ 8,250 รอบต่อนาที
  • แรงบิด 48 ฟุต-ปอนด์ ที่ 7,000 รอบต่อนาที
  • Redline ระบุไว้ที่ 9,000 รอบ
  • โหมด: Road และ Sport
  • ระบบขับเคลื่อน 4 ระดับ
  • Cornering ABS มาตรฐา

เปรียบเทียบสั้นๆ กับคู่แข่ง (จุดเด่นหลัก)

  • Scrambler FT: เอกลักษณ์และอิเล็กทรอนิกส์
  • Triumph 900: แรงบิดเต็มพลังและประวัติศาสตร์
  • Transalp: การเดินทางและความหลากหลาย
  • KLR650: ราคาถูกและความทนทานดั้งเดิม
  • DR650S: ความเรียบง่ายและเบา
  • XR650L: วิบากแนววินเทจ
  • CRF300L Rally: เข้าถึงเส้นทางออฟโรดเบาๆ
  • Triumph 400s: ราคาและเข้าถึงง่าย

คำถามยอดฮิต – คำถามที่ถามกันบ่อย

  1. มันสามารถวิ่งบนเส้นทางดินได้ไหม? ได้ในระดับปานกลาง เป็น scrambler ไม่ใช่ออฟโรดเต็มตัว ยางกับจังหวะการขี่สำคัญมาก
  2. ใช้งานในชีวิตประจำวันได้ไหม? ได้แน่นอน แฮนด์สูง ท่ายืนผ่อนคลายและเครื่องยนต์ที่ราบรื่นช่วยได้เวลารถติดและการเดินทางระยะกลาง
  3. เครื่องร้อนมากไหม? เครื่องระบายความร้อนด้วยอากาศ ถ้าร้อนแรงและการจราจรติดขัด คุณอาจรู้สึกร้อน แต่ก็ไม่เกินความคาดหมายของแนวคิดนี้แน่นอน
  4. ควรซื้อ Icon Dark แล้วปรับแต่งไหม? ถ้างบประมาณจำกัด Icon Dark เป็นพื้นฐานที่ดีเต็มๆ ในขณะที่ Full Throttle ก็ประหยัดเวลาด้วยชุดแต่งและดีไซน์ที่ลงตัว
  5. กินน้ำมันยังไง? ขึ้นอยู่กับการขี่ แบบใช้ร่วมกันก็ประหยัด แต่ความสำคัญอยู่ที่แรงบิดและประสบการณ์มากกว่าประหยัดพลังงาน

ความเห็นของผม: Full Throttle 2025 เน้นความสุขแบบทันทีและสไตล์ที่ไม่ต้องขออนุญาต เครื่องยนต์อาจไม่ได้สร้างความตกใจในตัวเอง แต่ชุดนี้ให้คำตอบ เสียง และการสั่นสะเทือนทางกลที่ทำให้คุณนึกถึงว่าทำไมคุณถึงหลงใหลในมอเตอร์ไซค์ ราคาอาจสูงในสายตาคู่แข่ง แต่ก็เปี่ยมด้วยประสบการณ์ทางอารมณ์และงานประกอบที่ทำให้คุณหันกลับมามองทุกครั้งหลังจากลงจากมอเตอร์ไซค์

ตอนนี้ขึ้นอยู่กับคุณ: คุณจะเลือก Scrambler รุ่นไหน ระหว่าง Full Throttle, Icon หรือคู่แข่งจากค่ายอื่น? คอมเมนต์บอกกันได้และบอกสิ่งที่คุณให้ความสำคัญมากที่สุด: ราคา สไตล์ อิเล็กทรอนิกส์ หรือ “รอยยิ้มต่อกิโลเมตร”?

Author: Fabio Isidoro

ฟาบิโอ อิซิโดโร เป็นผู้ก่อตั้งและบรรณาธิการบริหารของ Canal Carro ซึ่งเขาเขียนเกี่ยวกับโลกยานยนต์มาตั้งแต่ปี 2022 ด้วยความหลงใหลในรถยนต์และเทคโนโลยี เขาเริ่มต้นเส้นทางอาชีพบนเว็บไซต์ HospedandoSites และปัจจุบันอุทิศตนให้กับการสร้างเนื้อหาทางเทคนิคและการวิเคราะห์ที่ครอบคลุมเกี่ยวกับยานพาหนะทั้งในประเทศและต่างประเทศ 📩 ติดต่อ: contato@canalcarro.net.br

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *