โลกของยานยนต์ไฟฟ้าความแรงสูงได้ก้าวสู่ระดับใหม่ของความบ้าคลั่งแล้ว Ford Performance ฝ่ายที่ไม่กลัวจะเสี่ยง ได้เปิดตัวอาวุธใหม่ล่าสุดสำหรับสนามแข่ง และบอกเลยว่างานนี้โคตรจริงจัง Ford Super Mustang Mach-E ไม่ใช่แค่รถยนต์ธรรมดา แต่เป็นต้นแบบรถแข่งที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป้าหมายเดียว คือ การเป็นรถที่เร็วที่สุดบนถนน асфальต์ (หรือแม้กระทั่งถนนที่ไม่มีถนน) ที่ท้าทายขีดจำกัดทุกด้าน
อะไรทำให้ Mach-E คันนี้สุดขั้วขนาดนี้?
ลืมเอสยูวีไฟฟ้าสำหรับครอบครัวที่คุณรู้จักไปได้เลย Super Mustang Mach-E คันนี้เป็นสัตว์ประหลาดที่สร้างขึ้นตั้งแต่ต้น เน้นการทำงานในระดับสุดขั้วสำหรับการขึ้นเขา ด้วยระบบอากาศพลศาสตร์แอคทีฟแบบรุนแรงและเบรกคาร์บอนระดับแข่งขัน ส่วนประกอบแต่ละชิ้นต่างตะโกนว่า “ความเร็ว” และ “การควบคุม” มันคือวิวัฒนาการตามธรรมชาติของแนวทางฟอร์ดในการนำพลังงานไฟฟ้ามาใช้กับสมรรถนะ ตามรอยต้นแบบอย่าง SuperVan และ SuperTruck
ทีมวิศวกรของ Ford Performance ทั่วโลกสามารถออกแบบและสร้างสัตว์ร้ายนี่ให้เสร็จภายในเวลาไม่ถึงเจ็ดเดือน ซึ่งเป็นจังหวะแบบบ้าๆ สำหรับรถแข่งที่ซับซ้อนขนาดนี้ มาถึงงานแข่งขันเพียงหกสัปดาห์ก่อนสัญญาณเริ่ม ทำให้ต้องเร่งทดสอบหนักในสภาพแวดล้อมท้าทาย แม้กระทั่งกับหิมะบนยอดเขา นี่คือความทุ่มเทขั้นสุด!
พลังมหาศาล: สูงสุด 2,250 แรงม้าไฟฟ้า
นี่แหละจุดที่ทำให้คุณต้องตกตะลึง: พลังของมัน รุ่นที่จะลุยการปีนเขา Pikes Peak ในปี 2025 ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าสามตัว ให้กำลังรวมกัน 1,421 แรงม้า ตัวเลขที่เกรงใจจริงๆ ใช่ไหมล่ะ?
แต่ฟอร์ดเผยว่ามีการตั้งค่าอีกแบบที่รุนแรงกว่า ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าสี่ตัว ที่สามารถปล่อยพลังได้ถึง 2,250 แรงม้า! สองพันสองร้อยห้าสิบแรงม้าเลยทีเดียว! นี่คือระดับพลังที่สามารถแข่งกับไฮเปอร์คาร์สุดพิเศษจากทั่วโลกได้ มองให้เห็นภาพ ไฮเปอร์คาร์ไฟฟ้าอย่าง Pininfarina Battista ก็มีตัวเลขแรงม้าสูงลิ่วเช่นกัน ซึ่งแสดงให้เห็นศักยภาพของการใช้พลังไฟฟ้าที่สมรรถนะสูงสุด
กำลังมหาศาลที่ปลดปล่อยทันทีนี้ ซึ่งเป็นลักษณะเด่นของมอเตอร์ไฟฟ้า จะสำคัญมากในการตะลุยโค้งและทางตรงบนภูเขา มันเหมือนหมัดกระแทกความเร็วที่รถยนต์ไม่ว่าจะไฟฟ้าหรือเครื่องยนต์สันดาปจะเทียบได้ยาก
ระบบอากาศพลศาสตร์ ที่ยึดรถแนบพื้นถนน
ด้วยแรงม้าระหว่าง 1,421 ถึง 2,250 แรงม้า การทำให้ Super Mustang Mach-E แน่นกับพื้นถนนเป็นเรื่องสำคัญยิ่ง ฟอร์ดจึงพัฒนาระบบอากาศพลศาสตร์แอคทีฟซึ่งสร้างแรงกดลงถึงขั้นเหนือความคาดหมาย ใน Pikes Peak กับระดับความสูงและอากาศเบาบาง มันยังสามารถสร้างแรงกดอากาศราว 3,100 กิโลกรัม (6,900 ปอนด์) ซึ่งเกือบเป็นสองเท่าของน้ำหนักรถ (ประมาณ 1,560 กิโลกรัม)
ในสนามเรียบและระดับน้ำทะเล ที่ความหนาแน่นของอากาศสูงกว่า ระบบอากาศพลศาสตร์สามารถปรับได้เพื่อสร้างแรงกดลงสูงสุดถึง 5,400 กิโลกรัม (12,000 ปอนด์) มากกว่าแรงกดของรถแข่งชั้นนำหลายคัน รวมถึงรถสูตรหนึ่งบางรุ่น ระบบนี้รวมกับช่วงล่างแขนสวิงแบบใหม่ (แตกต่างจาก SuperTruck รุ่นก่อน) และการติดตั้งการ์ดครัชท์ที่พิมพ์ด้วยเครื่องพิมพ์สามมิติ เพื่อให้รถนิ่งและเร็วแม้บนทางที่ขรุขระ เป็นวิศวกรรมขั้นสูงเพื่อให้แรงม้าทั้งหมดใช้ได้จริง
ชิ้นส่วนแข่งแท้
นี่ไม่ใช่ Mach-E ที่ใส่ของแต่งมาสักหน่อย แต่เป็นรถแข่งที่สร้างขึ้นใหม่ทั้งหมด ส่วนใหญ่ของที่เห็นเป็นการปรับแต่งเพื่อสมรรถนะ เบรกที่ใช้ไม่ใช่เหล็กแต่เป็นคาร์บอน-เซรามิก ที่ใช้เทคโนโลยีใกล้เคียงกับที่ใช้ในรถแข่ง GT3 มากกว่ารถบนถนน ซึ่งทำให้เบรกมีประสิทธิภาพสูงและทนต่อความร้อนสูง
ช่วงล่างที่พูดถึงคือแบบแขนสวิงดีไซน์ใหม่ ที่สร้างมาเพื่อรับแรงและขจัดความขรุขระของเส้นทางขึ้นเขาเหมือน Pikes Peak ส่วนชิ้นส่วนผลิตแบบเดียวกับรถถนนแทบน้อยมาก มีแค่รายละเอียดอย่างมือจับประตูและที่ปัดน้ำฝนเท่านั้น นี่แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจเต็มที่เพื่อสร้างรถแข่งล้วนๆ Ford Performance พิสูจน์แล้วว่าเมื่ออยากทำรถแข่งสนามจริงๆ ก็ทำได้แบบโคตรจัดเต็ม
ความท้าทาย Pikes Peak 2025
เวทีสำหรับสัตว์ร้ายไฟฟ้านี้ก็คืองาน International Hill Climb ที่ Pikes Peak งานระดับตำนานที่ท้าทายทั้งนักขับและเครื่องยนต์จนสุดขีด นักขับหลักของ Ford Performance อย่าง Romain Dumas จะขับ Super Mustang Mach-E ในปี 2025 พยายามทำลายสถิติที่ SuperVan 4.2 เคยตั้งไว้ในปีก่อน นี่คือการแข่งขันเพื่อทำลายสถิติและความยอดเยี่ยมอย่างต่อเนื่อง
การเข้าร่วมของฟอร์ดใน Pikes Peak ด้วยรถต้นแบบไฟฟ้าความแรงสูงกลายเป็นเรื่องปกติใหม่ที่แสดงให้เห็นศักยภาพของ EVs ในสภาวะแวดล้อมสุดขั้ว ปี 2024 F-150 Lightning SuperTruck มีเหตุให้ชะงักบ้าง แต่ยังแสดงความเร็วได้ดี ส่วน Super Mustang Mach-E ที่น้ำหนักเบากว่าและมีกำลังมากกว่าก็สัญญาว่าจะวิ่งได้เร็วกว่า เหมือนกับรถรุ่นอื่นๆ ที่ตั้งใจทำลายสถิติในสนามขรุขระ โดยมุ่งเน้นการปรับแต่งอย่างเต็มที่เพื่อลุยเส้นทางอย่างมีประสิทธิภาพ
การแข่งขันปี 2025 ที่กำหนดไว้วันที่ 22 มิถุนายน จะเป็นบทพิสูจน์รถต้นแบบรุ่นใหม่ในรุ่น Open จะเป็นเรื่องน่าติดตามมากที่จะได้เห็นว่ามันจะทำได้ดีแค่ไหนในโค้ง 156 โค้ง และระดับความสูงที่เพิ่มขึ้นบนภูเขา ฟอร์ดยืนยันว่าการใช้พลังงานไฟฟ้าไม่ได้หมายความว่าจะต้องแลกมาด้วยการละทิ้งความตื่นเต้นและการแข่งขันในระดับสูง ในขณะที่โลกของรถไฟฟ้าสปอร์ตที่ “เข้าถึงง่ายกว่า” อย่าง Peugeot E-208 GTI ไฟฟ้า ก็แสดงให้เห็นว่าประสิทธิภาพของรถไฟฟ้ากำลังก้าวเข้าไปในตลาดที่หลากหลาย
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Super Mustang Mach-E:
- Ford Super Mustang Mach-E รถแข่งมีกำลังสูงสุดเท่าไร? รุ่นที่ทรงพลังที่สุดมีกำลัง 2,250 แรงม้า ด้วยมอเตอร์สี่ตัว
- รุ่นสำหรับ Pikes Peak ใช้มอเตอร์กี่ตัว? รุ่นปี 2025 ใช้มอเตอร์สามตัว รวมกำลัง 1,421 แรงม้า
- มันสามารถสร้างแรงกดอากาศได้เท่าไร? ที่ Pikes Peak ประมาณ 3,100 กิโลกรัม; บนสนามเรียบสูงสุด 5,400 กิโลกรัม
- เบรกที่ใช้เป็นของมาตรฐานหรือไม่? ไม่ใช่ เป็นเบรกคาร์บอน-เซรามิก ที่เทคโนโลยีใกล้เคียงกับที่ใช้ในรถแข่ง GT3 (แหล่งข้อมูลภายนอก 1: กฎ FIA GT3)
- มันจะแข่งที่ไหน? จุดมุ่งหมายหลักคือการแข่งขัน International Hill Climb ที่ Pikes Peak เดือนมิถุนายน 2025 (แหล่งข้อมูลภายนอก 2: เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ Pikes Peak)
เอาจริงๆ ตามความเห็นของผม การที่ Ford กล้าลงทุนกับโปรเจคสุดขีดอย่าง Super Mustang Mach-E เป็นสัญญาณดีมาก มันแสดงว่าไฟฟ้าไม่ได้ต้องน่าเบื่อหรือจำกัดสมรรถนะ กลับกันมันสามารถพาไปสู่ระดับพลังและระบบอากาศพลศาสตร์ที่ยากจะทำได้ด้วยเครื่องยนต์แบบเก่า เป็นการแสดงศักยภาพด้านวิศวกรรมและความมุ่งมั่นกับกีฬามอเตอร์สปอร์ตแม้ในยุคไฟฟ้า นี่คือหลักฐานว่า รถไฟฟ้าสามารถเร็วและตื่นเต้นได้อย่างไม่น่าเชื่อ โดยเฉพาะเมื่อสร้างขึ้นโดยไม่มีข้อจำกัดเหมือนรถผลิตจำนวนมาก นี่คืออนาคตของความเร็วที่ผมเองก็รู้สึกตื่นเต้นมาก
แล้วคุณล่ะ คิดอย่างไรกับสัตว์ร้ายไฟฟ้าคันนี้จากฟอร์ด? คิดว่ามันจะแตะสถิติใหม่ที่ Pikes Peak ได้ไหม? แสดงความคิดเห็นของคุณด้านล่างเลย!
Author: Fabio Isidoro
ฟาบิโอ อิซิโดโร เป็นผู้ก่อตั้งและบรรณาธิการบริหารของ Canal Carro ซึ่งเขาเขียนเกี่ยวกับโลกยานยนต์มาตั้งแต่ปี 2022 ด้วยความหลงใหลในรถยนต์และเทคโนโลยี เขาเริ่มต้นเส้นทางอาชีพบนเว็บไซต์ HospedandoSites และปัจจุบันอุทิศตนให้กับการสร้างเนื้อหาทางเทคนิคและการวิเคราะห์ที่ครอบคลุมเกี่ยวกับยานพาหนะทั้งในประเทศและต่างประเทศ 📩 ติดต่อ: contato@canalcarro.net.br